วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ที่ดินบนเกาะ


ที่ตั้ง : อยู่บริเวณระหว่างหาดบ้านไร่กับหาดเกเรด้านหลังติดเขา ด้านหน้าติดถนนรอบเกาะ (อีกฝั่งถนนติดกับทะเลเลย) ตรงตาม"หวงจุ้ย "ทำเลดีมาก
ดูได้จากรูปคับบริเวณนี้บรรยากาศสงบเงียบ สบาย เหมาะสำหรับลงทุนทำรีสอร์ทหรือบ้านพัก หาดทรายขาว..สวยใกล้จุดชมวิว หาดนวล
ด้านหน้าเกาะอยุ่ฝั่งพัทยา ตอนกลางคืนสามารถมองเห็นวิวไฟบนพัทยาได้ สวยงามมาก..

วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ที่ดิน ริม ทะเล



ที่ดิน ริม ทะเล

เห็นที่ดินแบบนี้นี่ ราคาไม่เบานะครับ
ยิ่งอยู่ติดทะเลด้วย ยิ่งไปกันใหญ่
ถ้าใครมีงบซื้อที่ดินติดทะเลไว้ละก็ทำกำไรแน่นอนครับ
ที่ดินแบบนี้หาไม่ง่ายครับ
มักจะถูกจับจองโดยนายทุนไปเกือบหมดแล้ว
แต่ถ้าอยากได้จริงๆ และมีทุนมากพอก็แนะนำครับว่ามีไว้คุ้มค่าที่จะซื้อที่ดินนี้ไว้ครับ

บ้านสวย



บ้านสวย ๆ ใครๆก็อยากอยู่ จริงไหมครับ
ไม่เชื่อก็ดูที่ภาพสิครับ
เห็นแล้วก็อยากมีบ้านแบบนี้สักหลัง
ยุคนี้หาบ้านดีดีสักหลัง ก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้ว
บ้านดีราคาถูก ก็มีให้เลือกมากมาย
อยู่ที่เรามีงบที่จะซื้อบ้านได้ในราคาเท่าไหร่
เชื่อว่าบ้านสวยๆ ราคา ไม่แพงมาก ยังมีอยู่ครับ

บ้านพักตากอากาศ


บ้านพักตากอากาศ
บรรยากาศสงบ อบอุ่น บนเกาะล้าน จะมีสถานที่พักผ่อนใดที่ให้คุณได้ ทั้งความสงบร่มรื่น จากสภาพแวดล้อมรีสอร์ท แสนสุข ห้องพักแสนสบาย พร้อมด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพัก ครบครัน ห้องอาหารเรา มีอาหาร เลิศรส รอให้ท่านมาสัมผัสลิ้มรส

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

บ้าน 2 ชั้น


บ้าน 2 ชั้น
บ้าน 2 ชั้น น่าจะเป็น บ้าน ที่เราเห็นกันมากที่สุด และ อยากเป็นเจ้าของมากที่สุดด้วย
เนื่องจาก เป็นบ้านเดี่ยว สวย ดูดี ไม่เล็กไป และไม่ดูใหญ่ไป เหมาะกับการเป็นเจ้าของยิ่งนัก
ใครๆก็ฝันอยากจะมีบ้าน ดีดีสักหลัง แน่นอนว่า บ้าน 2 ชั้น ต้องเป็นบ้านในแบบที่คุณฝันอยู่แน่นอน..

วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

บ้านเดี่ยวแบบชั้นเดียว


บ้านเดี่ยวแบบชั้นเดียว
ไม่ค่อยมีคนพูดถึงมากนัก และสมัยนี้ก็ไม่ค่อยนิยม สร้างบ้านชั้นเดียวกันเท่าใด เพราะพื้นที่การใช้สอยน้อย ไม่คุ้มกับราคาที่ดิน ในพื้นที่ดินที่เท่ากัน สู้สร้างบ้าน 2 ชั้นจะดีกว่า บ้านชั้นเดียวในทางฮวงจุ้ยถือว่าดีหรือไม่..? ถ้ามองตามหลักฮวงจุ้ยโดยตรง ก็ไม่ถึงกับเสียหายอะไร แต่การจัดฮวงจุ้ยภายในบ้านจะทำได้ยากกว่าบ้าน 2 ชั้น เพราะบ้านชั้นเดียวห้องต่างๆ จะรวมอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก, ทำงาน ครัว ห้องส้วม ห้องพระ และห้องนอน ถ้าจัดวางไม่ถูกต้อง จะก่อผลกระทบได้ง่ายกว่าบ้าน 2 ชั้น เพราะฉะนั้น บ้านชั้นเดียวที่ดี ควรมีลักษณะบ้านที่กว้างพอสมควร เพื่อที่จะได้จัดแบ่งพื้นที่ภายใน ทำเป็นห้องต่างๆได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมภายนอกบ้าน ก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน บ้านชั้นเดียวเหมาะที่จะสร้างในพื้นที่โล่ง เพราะบ้านที่ต่ำจะไม่ปะทะกับลม เหมือนบ้าน 2 ชั้น 3 ชั้น ถ้าบ้านชั้นเดียวไปอยู่ท่ามกลางบ้านที่สูงกว่า หรือพวกตึกสูงก็จะทำให้ฮวงจุ้ยบ้านเสียทันที ในทางฮวงจุ้ยจะถือว่า ถูกกดข่ม คนในบ้านจะรู้สึกต่ำต้อย ดูด้อยกว่าบ้านอื่น นอกจากนี้ การมีบ้านที่สูงกว่าอยู่ติดกัน ยังเป็นตัวปิดกั้นลมที่จะพัดเข้าบ้านอีกด้วย ส่งผลให้สุขภาพของคนในบ้านไม่ดีอีกด้วย
ถ้าเจ้าของบ้านอยากสร้างบ้านชั้นเดียว แต่ต้องแวดล้อมไปด้วยบ้านที่สูงกว่า ก็สามารถทำได้ครับ โดยการสร้างบ้านบนเนิน เพื่อยกระดับของพื้นไม่ให้ต่างกับบ้านข้างเคียงมากนัก หรือออกแบบรูปทรงบ้านให้ดูสูงโปร่ง ก็พอช่วยได้เช่นเดียวกัน หลักการก็คือ เวลามองจากภายนอก บ้านต้องไม่ดูด้อยกว่าบ้านข้างเคียงเป็นใช้ได้ คราวนี้มาดูที่การจัดภายในบ้านกันบ้าง ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่า บ้านชั้นเดียวการจัดภายในค่อนข้างจะยาก เพราะห้องต่างๆจะรวมอยู่ชั้นเดียวกันหมด วิธีการจัดให้สอดคล้องกับหลักฮวงจุ้ย ตำราจะบอกเอาไว้ว่า การจัดผังภายในบ้านชั้นเดียว ควรมีห้องโถงกลาง แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน โดยแบ่งส่วนของห้องนอน แยกต่างหากจากห้องรับแขก กับห้องครัว เพราะห้องรับแขก ที่สถานที่รับแขก ไม่เหมาะที่จะมีห้องนอนอยู่ใกล้ เพราะเป็นห้องนอนถือเป็นห้องส่วนตัว ส่วนห้องครัว จะมีมลภาวะเรื่องกลิ่น และควัน จะกระทบกับคนนอนได้
การจัดบ้านชั้นเดียวอีกลักษณะหนึ่ง ที่ดูจะเหมาะสมกว่าก็คือ การทำเป็นบ้านเล่นระดับ เพราะการเล่นระดับของพื้นภายในบ้าน จะช่วยในการแบ่งพื้นได้ชัดเจนกว่า เช่น ส่วนของห้องรับแขก ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องอาหาร เล่นระดับต่ำ ส่วนห้องนอน ห้องพระ เล่นระดับสูง
การทำบ้านแบบเล่นระดับจะเหมาะกับบ้านชั้นเดียวมาก เพราะจะแบ่งส่วนของการนอนกับห้องต่างๆได้ง่าย กรณีของบ้านที่ต้องการวางพระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านชั้นเดียว นั้น จะหาตำแหน่งวางค่อนข้างจะยาก เพราะเงื่อนไขการวางพระมีมาก เช่น ห้ามติดกับห้องส้วม ห้องครัว หรือภายในห้องนอนก็วางไม่ได้ วางในที่ต่ำก็ไม่เหมาะ ถ้าเป็นบ้านเล่นระดับก็จะเลือกวางระดับที่สูงมากกว่าต่ำ แต่ถ้าไม่ใช่เล่นระดับ ส่วนใหญ่จะวางในห้องโถง หรือห้องรับแขก ซึ่งเป็นห้องส่วนกลางของคนในบ้าน สำหรับเจ้าของบ้านที่ชอบจัดสวน ปลูกต้นไม้รอบๆบ้าน มีข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่ง ก็คือ อย่าปลูกต้นไม้มากจนเกินไป โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ เพราะจะทำให้เกิดภาวะของ"อินชี่" ต้นไม้จะปกคลุมบ้านจนมืดครึ้ม ความชื้นภายในบ้านจะมาก ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนในบ้าน อย่างแน่นอน ใครที่อยู่บ้านชั้นเดียว หรือกำลังคิดจะสร้างบ้านชั้นเดียว ลองเอาหลักที่บอกไปใช้ดู รับรองว่า บ้านจะน่าอยู่มากขึ้นแน่ๆ?

วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2553

บ้านเรือนแพ



บ้านเรือนแพ
ถ้าจะให้คิดถึงบ้านเรือนแพ ก็คงต้องคิดถึง จังหวัดที่มีแม่น้ำ ลำครอง ไหลผ่าน
ที่ใกล้ตัวที่สุด ก็คงเป็นจังหวัดพิษณุโลก ที่จะมีบ้านเรือนแพ มากที่สุด
บรรยากาศก็เป็นแบบไทยๆ บ้านไทยในสมัยก่อน ซึ่งปัจจุบันก็หาดูได้ยากแล้วครับ..

บ้านลอยน้ำ – เรือนแพแบบโมเดิร์น


บ้านลอยน้ำเรือนแพแบบโมเดิร์น
เรือนแพของไทยในอดีต เป็นที่พักอาศัยของคนต่างถิ่น หรือคนที่ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง ก็ยังสามารถอาศัยผืนน้ำ เป็นที่อาศัยแทนผืนดินได้ เมื่อมีฐานะ ความเป็นอยู่ดีขึ้น มีความมั่นคงขึ้น ก็สามารถหาที่ดินลงหลักปักฐาน ย้ายบ้านจากน้ำ ขึ้นบนบกได้ แม้ในปัจจุบันยังมีเรือนแพพักอาศัยอยู่บ้าง ในต่างจังหวัด แต่ก็เหลือน้อย และไม่ได้เป็นเรือนไทยสวยงาม เหมือนดังในอดีต
เรือนแพ หรือบ้านลอยน้ำของฝรั่ง ต่างจากของไทย เพราะในปัจจุบันจะเป็นลักษณะของบ้านแบบท่องเที่ยว เป็นงานอดิเรก หรือเรื่องของไลฟ์สไตล์ที่หรูหราสักหน่อย แต่ในอนาคต อาจจะเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องเป็นที่พักอาศัยถาวรอย่างของไทยก็ได้ เพราะที่ดินกว่า 20 % ใน ฮอลแลนด์ เป็นพื้นที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล และที่ดินก็หายากมากขึ้นเรื่อยๆ
บริษัทที่คิดบ้านลอยน้ำขึ้นมานี้ เป็นของเยอรมัน (Floating Homes GMBH) ได้ออกแบบบ้านลอยน้ำขึ้นมา มีรูปแบบทันสมัย หลายรูปแบบ ซึ่งก็ดูเหมือนบ้านทั่วไปนั่นเอง ไม่ได้เหมือนแพ หรือเรือ เพียงแต่มันลอยน้ำได้ หรือสามารถลากจูง ต่อกันเป็นขบวน แบบเรือเอี้ยมจุ้นได้ ในราคาประหยัด จัดเป็นประเภทของ mobile home ชนิดหนึ่ง ซึ่งวิ่งในน้ำ และทำขนาดได้ใหญ่กว่า รถ mobile home ที่จำกัดขนาดโดยเลนของถนน

บ้านบนเขา



บ้านบนเขา
ดูจากรูป แล้วเป็นไงกันบ้างครับ น่าอยู่ไหมบ้านแบบนี้
ผมว่าได้บรรยากาส เลยทีเดียว บ้านบนเขา มองเห็นวิวติดทะเลด้วย
ลมพัดเย็นมองเห็น ทะเล ถ้าได้ไปพักผ่อน หรือมีบ้านแบบนี้ ก็แจ่มเลยครับ...

วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2553

บ้านริมน้ำ


บ้านริมน้ำ เดี๋ยวนี้หาดูยากเหมือนกัน ไม่เหมือนยุคก่อนๆ ที่เส้นทางจราจรทางน้ำยังรุ่งเรือง
เดี๋ยวนี้ บ้านริมน้ำมีน้อย มักจะเปิดเป็นแบบบ้านพักชะมากกว่า
ดูแล้วก็ได้บรรยากาศดีเหมือนกันนะ บ้านริมน้ำ ออกแบบได้ โรแมนติกดี
เหมาะกับคู่รัก จริงๆ..

วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2553

บ้านสวน


บ้านสวน ดูเป็นบ้านที่น่าอยู่อีกที่นะครับ เพราะดูเป็นธรรมชาติ
หลีกหนีความวุ่นวายในตัวเมือง มาอยู่บ้านแบบธรรมชาติ
ก็มีความสุขไปอีกแบบ บ้านที่มีต้นไม้ล้อมรอบ สวนดอกไม้ ใบหญ้า
ความเขียวของ พืชต่างๆ รอบๆบ้าน ช่วยสร้างบรรยายกาศที่ดีทีเดียว..

วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553

บ้านดิน



บ้านดิน เห็นแล้วแปลกดี เลยเอามาให้ดู เห็นว่าสร้างไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายนะดูแล้ว
ก็สวย ไปอีกแบบ สำหรับคนที่ชอบบ้าน แบบง่ายๆ สบายๆ ผมว่าบ้านดิน น่าจะเย็นดีนะ
เหมาะกับประเทศไทยที่มีอากาศร้อน เห็นแล้วก็อยากที่จะมีบ้านดินกับเขาสักหลังแล้วสิ..

วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2553

บ้านธรรมชาติ



ผมชอบบ้านแบบธรรมชาตินะ ดูเย็นสบาย ได้บรรยากาศ ดีจริงๆ
มีต้นไม้ ลำธาร มองเห็นน้ำใสไหลเย็น ถ้าเป็นตอนเช้าๆนะ
มีสายหมอกอีก ดูจะเป็นบ้านที่ได้ความสุขไปเต็มๆ

บ้านไม้ไผ่




ถึงแม้ว่าบ้านไม้ไผ่ถือเป็นบ้านที่คนส่วนใหญ่ในย่านเอเชีย นี้ ใช้เป็นที่อยู่อาศัยกันมานานแล้วก็ตามที แต่ว่าในทางสถาปัตยกรรมสมัยใหม่แล้ว ถือว่ามีการพัฒนาไปช้ามาก ไม่ค่อยมีการใช้และพัฒนาอย่างต่อเนื่องเท่าใดนัก เนื่องจากไม้ไผ่มักจะใช้กับการก่อสร้างที่ค่อนข้างจะชั่วคราว และราคาถูก จึงเป็นภาพพจน์ที่ไม่ดีของไม้ไผ่ ว่าเป็นที่อยู่อาศัยของคนจนไป แม้ว่าคุณสมบัติของไม้ไผ่นั้น มีดีอยู่มากมาย แต่ก็มีข้อเสียที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขถ้าเราแก้จุดอ่อนของมันได้ การพัฒนาจากนี้ไปก็จะก้าวกระโดดไปไกลได้ทีเดียว

บ้านไม้ไผ่ที่เราพบเห็นมักจะมีรูปแบบที่เหมือนๆกัน ด้วยวิธีการและรูปแบบในการก่อสร้าง ซึ่งทำตามๆกันมา นี่เป็นจุดอ่อนของบ้านไม้ไผ่ ที่ไม่มีการพัฒนาในเรื่องตัววัสดุ รูปแบบ วิธีการก่อสร้าง และเทคโนโลยี่สมัยใหม่ ทำให้ความนิยมอยู่ในวงจำกัด การใช้งานก็จำกัดไปด้วย แต่ถ้าเราสามารถสร้างบ้านไม้ไผ่ด้วยวิธีใหม่ ด้วยวัสดุผสม และรูปแบบที่ได้ออกแบบให้ใช้งานได้มากขึ้น ภาพพจน์ของบ้านไม้ไผ่ก็จะเปลี่ยนไป และได้รับความนิยมจากคนมีฐานะมากขึ้น แต่ก็ยังคงคุณสมบัติที่ดีไว้คือ ราคาถูกกว่าวัสดุก่อสร้างอย่างอื่น

จุดอ่อนอย่างแรก คือคุณสมบัติที่ถึงแม้ไม้ไผ่จะแข็งกว่าไม้ เหนียว ยืดหยุ่นได้ดีทนทาน แต่มักเป็นเหยื่ออันโอชะของแมลงเจาะไช ทำให้ผุพังได้รวดเร็ว ไม่ทนทาน ซึ่งก็สามารถแก้ได้ด้วยวิธีการอบน้ำยากันแมลง ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงหน่อย ถ้าทำจำนวนน้อย แต่ถ้าสามารถทำเป็นจำนวนมากได้ ก็จะลดต้นทุนลงไป

การก่อสร้างด้วยรูปแบบเดิมๆก็เป็นจุดอ่อนข้อถัดมา ที่เห็นกันอยู่คือ บ้านไม้ไผ่ของไทยเรานั้น จะมีวิธีการก่อสร้างที่เรียกว่า เรือนเครื่องผูก ข้อต่อต่างๆจะมาทาบกันแล้วผูกด้วยวัสดุที่เหนียวเช่นหวายและก็ทำให้บ้านไม้ ไผ่ไม่ทนทานจากวัสดุผูกนี่แหละ ที่พังก่อน เลยทำให้มีข้อจำกัดในเรื่องรูปแบบและความคงทน เราจึงเห็นบ้านไม้ไผ่แบบเพิงหรือจั่วแบบไทยๆ ที่ไม่มีการเปลี่ยนรูปทรง มาเป็นเวลานาน ดังนั้นในวิธีการ หรือเทคโนโลยี่สมัยใหม่ ถ้าใช้การบากหรือวัสดุอื่นที่ทนทานกว่ามาใช้ร่วมในการยึด ต่อ ติด ไม้ไผ่ เข้าด้วยกันแล้ว การก่อสร้างและรูปแบบ ก็จะเปลี่ยนไปทันที ไม่ใช่เพิงหมาแหงนอย่างที่เราคุ้นตากันอีกต่อไป

เทคโนโลยี่สมัยใหม่ จะเข้ามาพัฒนาวิธีการก่อสร้างและรูปแบบ ให้บ้านไม้ไผ่ ได้รับความนิยมในอนาคตได้ เนื่องจากไม้เนื้อแข็งเริ่มหมดไป ไม้โตไม่ทันการใช้งานของพลเมืองโลกที่ขยายตัวขึ้นรวดเร็วมาก แต่ไม้ยืนต้นสักต้นกว่าจะโตจนเหมาะที่จะใช้งานนั้น ใช้เวลาหลายสิบปีทีเดียว การใช้ไม้ไผ่ก็จะเป็นการช่วยรักษาป่าด้วยในทางอ้อม เพราะไม้ไผ่เป็นพืชโตเร็วไม่ถึงปีก็ตัดมาใช้ได้แล้วและป่าไผ่ก็สามารถฟื้น ตัวได้เร็วอีกด้วย ใน 1 ปี ป่าไผ่จะฟื้นตัวได้ถึง 30 % ทีเดียว เทียบกับป่าไม้เนื้อแข็งที่จะสามารถฟื้นตัวได้ เพียงแค่ 3-5 % ต่อปีเท่านั้น นี่จึงเป็นการทดแทนที่น่าจะเป็นการรักษาสมดุลของธรรมชาติไปในตัว

ข้อเสียอีกอย่างของไม้ไผ่คือความไม่มาตรฐาน ความใหญ่ของลำ ความตรงของลำต้น ความยาวของลำต้นและความเรียวเล็กลงจากโคนไปสู่ปลาย เหล่านี้เป็นอุปสรรคต่อวิธีการก่อสร้างสมัยใหม่ เพราะถือว่าไม่ได้มาตรฐาน แต่ถ้าเราใส่แนวความคิดของบ้านธรรมชาติเข้าไป ความไม่มาตรฐานอาจทำให้การก่อสร้างยากขึ้นอีกนิด แต่ความสวยงามก็จะลบข้อด้อยอันนี้ออกไปได้ และการสร้างบ้านไม้ไผ่ก็จะกลายเป็นงานทางศิลปะไปในตัว

การใช้วัสดุผสมก็เป็นการแก้จุดอ่อนของบ้านไม้ไผ่ได้ การสร้างบ้านไม้ไผ่ไม่ได้มีข้อห้ามว่าจะต้องใช้ไม้ไผ่เพียงอย่างเดียว แต่ในส่วนโครงสร้างของบ้าน ส่วนไหนที่ไม่เหมาะใช้ไม้ไผ่ เราก็ใช้วัสดุอื่นแทนได้ เช่นฐานราก เราก็ใช้คอนกรีตเสริมเหล็กได้ เสาคานถ้าเราสร้างบ้านสองชั้นเสาไม้ไผ่อาจไม่แข็งแรงพอ การใช้หลายต้นรวมกันก็อาจจะยุ่งยาก เราก็ใช้เสาปูน หรือไม้เนื้อแข็งเข้าร่วมด้วยก็ได้ ไม่ผิดตรงไหน จุดต่อเชื่อมหรือจุดรับน้ำหนักก็ใช้โลหะเข้าร่วมด้วย ได้เช่นเดียวกัน ดูจากรูปต่างๆที่นำมาให้ชมเอาก็แล้วกัน ว่าต่างจากที่คุณเคยเห็น เคยรู้จักมาแล้วเพียงใด และความน่าอยู่จะน้อยกว่าบ้านธรรมชาติแบบอื่นๆหรือไม่ ?

วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553

การดำเนินการเกี่ยวกับที่ดินที่ถูกทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์


ปัจจุบันไม่มีกฎหมายกำหนดสิทธิในการถือครอง ที่ดินเป็นเหตุให้มีการซื้อที่ดินไว้แล้ว ปล่อยให้รกร้างว่างเปล่าไม่ทำประโยชน์ อีกทั้งสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้มีอสังหาริมทรัพย์รอการขายและทิ้งร้างเป็นจำนวนมากสำหรับการสำรวจ ที่ดินที่ถูกทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ นั้น กระทรวงมหาดไทยได้มีการสำรวจเป็นประจำทุกปี โดยให้แต่ละจังหวัดรายงานผลการสำรวจให้ทราบภายในเดือนมกราคมของทุกปี
ผลดีของการเข้าทำ ประโยชน์ในที่ดิน
1. เป็นการเพิ่มผลผลิตทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ก่อให้เกิดการสร้างงาน ส่งผลให้เพิ่มพูนรายได้ หรือลดค่าใช้จ่ายของครอบครัว และท้องถิ่น
2. ก่อให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของท้องถิ่น
3. ป้องกันปัญหาการบุกรุกเข้าทำประโยชน์ในที่ดินของผู้อื่น
4. เมื่อประชาชนมีรายได้พอเพียง ก็จะส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจสังคม และการเมืองของประเทศโดยรวม
ผลเสียของการทอด ทิ้งไม่ทำประโยชน์ในที่ดิน ก่อให้เกิดปัญหาสรุปได้ ดังนี้
1. ปัญหาทางเศรษฐกิจ ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมรายได้ส่วนใหญ่ของประเทศมาจากผลผลิตทางเกษตร การทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์เป็นเหตุให้ไม่มีการเพิ่มผลผลิตทางเกษตร หรือผลผลิตลดลงไม่เพียงพอแก่การอุปโภค บริโภค ส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม
2. ปัญหาทางสังคมและการเมือง ด้วยเหตุที่มีการกว้านซื้อที่ดินไว้แล้วไม่ทำประโยชน์ จึงมีผลกระทบถึงประชาชนส่วนใหญ่ที่เป็นเกษตรกร ซึ่งไม่มีที่ดินทำกิน ก่อให้เกิดการบุกรุกเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินที่เจ้าของทอดทิ้ง ก่อให้เกิดปัญหาแย่งชิงที่ดินทำกิน เกิดความไม่สงบสุขภายในสังคม และในกรณีที่มีการเข้าไปบุกรุกแผ้วถางที่ดินของรัฐ ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างภาครัฐกับประชาชน เป็นปัญหาทางการเมือง

วันอังคารที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ซื้อบ้านจัดสรรดีอย่างไร


ซื้อบ้านจัดสรรดีอย่างไร

เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ คือ มีการกู้เงินจากสถาบันการเงินไปลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น จัดทำหมู่บ้านจัดสรรขาย การก่อสร้างอาคารชุดเพื่อจำหน่าย แต่มีส่วนบกพร่องบางประการที่เกิดจากความไม่รับผิดชอบของผู้ประกอบการเอง กล่าวคือ ในโครงการไม่มีคุณภาพและไม่ได้มาตรฐานจึงขายไม่ได้ ทำให้ไม่มีเงินไปหมุนเวียนชำระหนี้ให้แก่สถาบันการเงิน จนเกิดเป็นหนี้เสียกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ส่วนประชาชนผู้บริโภคที่กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินมาซื้อบ้านจากโครงการ ซึ่งไม่ได้มาตรฐานไร้คุณภาพ ต้องเกิดภาระในการนำเงินไปซ่อมแซมบ้าน ทำให้เงินที่เตรียมไว้เพื่อชำระหนี้สถาบันการเงินส่วนหนึ่งถูกดึงไปใช้ในการ ซ่อมแซม ยังผลให้เงินที่ต้องชำระหนี้ไม่พอหนัก ๆ เข้าก็ขาดส่งต่อสถาบันการเงิน จนกลายเป็นหนี้เสียเช่นเดียวกัน ซ้ำร้ายยังต้องจำทนอยู่ในทำเลที่ไม่เหมาะสมทำให้ขาดคุณภาพชีวิตที่ดีไป ในทำนองที่ว่า "ซื้อบ้านผิดคิดจนบ้านพัง"

สถานการณ์ปัจจุบันยังมีผู้ประกอบการสร้างบ้านขายเป็นจำนวนมากเกินความต้อง การของผู้ซื้อ ไม่ว่าจะอยู่ในระบบการจัดสรรหรืออยู่นอกระบบการจัดสรร ในขณะที่ผู้ซื้อก็มีโอกาสเลือกซื้อ ซึ่งในภาษาทางการตลาดเรียกว่า "โอกาสเป็นของผู้ซื้อ" ฉะนั้นเพื่อให้โอกาสเป็นของผู้ซื้อย่างแท้จริง จึงขอเสนอข้อแนะนำประกอบการตัดสินในซื้อว่า "ควรเลือกซื้อบ้านจากโครงการที่ได้รับอนุญาตให้ทำการจัดสรร" เพราะระบบการจัดสรรภายใต้กฎหมายควบคุมการจัดสรรที่ดิน ไม่ว่าจะดำเนินการได้รับอนุญาตตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 หรือได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 22 กรกฎาคม 2543) จะช่วยคุ้มครองสิทธิของผู้ซื้ออันเป็นหลักประกันให้ผู้ซื้อในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้

1. ผู้ซื้อจะได้ที่อยู่อาศัยในทำเลที่เหมาะสมตามสภาพแห่งท้องที่ที่ตั้งโครงการ ในด้านการสาธารณสุขการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การคมนาคม การจราจร ความปลอดภัย การสาธารณูปโภค และการผังเมือง ตลอดจนการอื่น ๆ ที่จำเป็นเนื่องจากการที่จะอนุญาตให้ทำการ จัดสรรแต่ละโครงการ คณะกรรมการจัดสรรที่ดินซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิหลายสาขาอาชีพจะร่วมกัน ออกข้อกำหนดให้เหมาะสมกับสภาพ ท้องถิ่น

2. ผู้ซื้อจะได้รับสาธารณูปโภค หรือบริการสาธารณะ หรือการปรับปรุงที่ดิน ตามแผนผังโครงการ ภายในเวลาที่กำหนด เนื่องจากพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 กำหนดให้ผู้ขอจัดสรรจะต้องจัดหาธนาคารหรือสถาบันการเงินมาทำสัญญาค้ำประกัน กับคณะกรรมการจัดสรรที่ดิน และให้อำนาจคณะกรรมการจัดสรรที่ดิน นำเงินไปดำเนินการจัดให้มีสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และปรับปรุงที่ดินได้

3. ผู้ซื้อจะไม่ถูกผู้ประกอบการหลอกลวงโดยการโฆษณา เนื่องจากพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 บังคับไว้ว่า การโฆษณาในเรื่องเกี่ยวกับเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ขอจัดสรรบุริมสิทธิ์ หรือภาระการจำนองของที่ดินจัดสรร จำนวนแปลงย่อย และเนื้อที่โดยประมาณโครงการปรับปรุงที่ดิน การจัดให้มีสาธารณูปโภคและบริการสาธารณะ แผนงาน โครงการ และระยะเวลาการบำรุงรักษาสาธารณูปโภค วิธีการจำหน่ายและการชำระราคาหรือค่าตอบแทน ภาระผูกพันที่บุคคลอื่นมีส่วนได้เสียเกี่ยวกับที่ดินจัดสรร แบบสัญญาจะซื้อจะขาย ที่ตั้งสำนักงานชื่อธนาคารหรือสถาบันการเงินที่จะเป็นผู้ค้ำประกันการจัดให้ มีสาธารณูปโภค บริการสาธารณะหรือการปรับปรุงที่ดิน จะต้องตรงกับหลักฐานและรายละเอียดที่กำหนดไว้ในคำขออนุญาตด้วย

4. ผู้ซื้อจะได้ใช้สาธารณูปโภคและบริการสถานะตลอดไป โดยไม่ต้องกลัวว่าวันดีคืนดีจะมีใครมาปิดกั้นขัดขวางการใช้ เนื่องจาก พระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน บังคับไว้ว่าที่ดินอันเป็นสาธารณูปโภคและที่ดินที่ใช้เพื่อบริการสาธารณะ ปลอดจากบุริมสิทธิ์ในมูลซื้อขาย อสังหาริมทรัพย์และภาระการจำนอง

5. ผู้ซื้อจะไม่ถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบการในการเข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน จัดสรร เพราะจะต้องทำสัญญาตามแบบที่คณะ กรรมการจัดสรรที่ดินกำหนด

6. ผู้ซื้อไม่ต้องกลัวว่าผู้ขายจะฉ้อโกง โดยกล่าวหาว่าผู้ซื้อขาดการชำระเงินอีกต่อไป เพราะพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดินบังคับ ให้ผู้รับเงินออกหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้รับเงินให้ผู้ซื้อยึดถือ ไว้ และให้ถือว่าเป็นหลักฐานแสดงการชำระราคาที่ดินจัดสรร

7. ผู้ซื้อไม่ต้องกลัวว่าเมื่อชำระราคาที่ดินครบถ้วนตามสัญญาจะซื้อจะขายแล้ว ผู้ขายจะไม่โอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ซื้อให้อีกต่อไป หรือกรณีที่ผู้ซื้อได้ชำระราคาที่ดินครบถ้วนตามสัญญาจะซื้อจะขายแล้ว ผู้จัดสรรที่ดินเป็นบุคคลธรรมดาตาย หรือที่เป็นนิติบุคคลเลิกไปก็ยังสามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินมาเป็นของผู้ซื้อ ได้ เพราะผู้ซื้อสามารถนำหลักฐานเป็นหนังสือที่แสดงว่า ได้ชำระราคาพร้อมโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ไปขอจดทะเบียนต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ ถ้าไม่สามารถนำโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์มาได้ก็สามารถร้อง ขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่เรียกมาได้ และถ้าพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่ผู้ยึดถือหรือครอบครองโฉนดที่ดินหรือหนังสือ รับรองการทำประโยชน์ได้รับแจ้ง ถ้ายังไม่ส่งมอบให้ พนักงานเจ้าหน้าที่ก็มีอำนาจออกใบแทนแล้วจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมให้แก่ ผู้ซื้อได้

8. ผู้ซื้อได้รับหลักประกันว่าบรรดาสาธารณูปโภคตามแผนผัง โครงการ เช่น ถนน สวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น จะได้รับการบำรุงรักษาโดยผู้ประกอบการจนกว่าผู้ซื้อที่ดินจัดสรรได้จัดตั้ง นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร หรือนิติบุคคลอื่นรับโอนไปจัดการและดูแลบำรุงรักษาเอง เพราะพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดินบังคับให้ผู้จัดสรรที่ดินต้องจัดหาธนาคาร หรือสถาบันการเงินมาทำสัญญาค้ำประกันการบำรุงรักษาและให้อำนาจคณะกรรมการจัด สรรที่ดินสามารถนำเงินไปใช้ในการบำรุงรักษาได้ หากผู้จัดสรรที่ดินไม่จัดทำสาธารณูปโภคในระยะเวลาอันสมควร

9. ผู้ซื้อที่ดินจัดสรรในโครงการเดียวกัน ถ้าประสงค์ที่จะดูแลบำรุงรักษาสาธารณูปโภคหรือบริการสาธารณะกันเอง ก็สามารถดำเนินการจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรเพื่อทำหน้าที่ดูแลบำรุง รักษาได้ โดยเฉพาะการจดทะเบียนโอนที่ดินที่ใช้เป็นสาธารณูปโภคหรือบริการสาธารณะ กฎหมายบัญญัติให้ยกเว้นทั้งค่าธรรมเนียมจดทะเบียน ค่าภาษี และอากร

จากหลักประกันดังกล่าวข้างต้นคงจะช่วยให้ผู้ที่คิดจะซื้อที่อยู่อาศัยตัดสิน ใจได้ว่า ซื้อบ้านจัดสรรนั้นดีอย่างไร โดยท่านจะได้ไม่ต้องช้ำใจถึงขนาด "ซื้อบ้านผิด คิดจนบ้านพัง" และถ้าเลือกซื้อจากโครงการที่อยู่ในระบบจัดสรร โปรดมองหาใบอนุญาต แผนผังโครงการ และวิธีการที่คณะกรรมการอนุญาตในที่เปิดเผยเห็นได้ง่าย ณ สำนักงานที่ทำการจัดสรรที่ดินด้วย เพราะพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 มาตรา 31 บังคับไว้

หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้โดยตรงที่สำนักงานส่งเสริมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โทร. 662-3480 หรือ http://www.dol.go.th/

วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553

คำแนะนำในการซื้อบ้าน และที่ดินจัดสรร



คำแนะนำในการซื้อบ้าน และที่ดินจัดสรร
+ควรเลือกซื้อบ้านและที่ดิน เฉพาะรายที่ได้รับอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดินแล้วเท่านั้น
+ตรวจสอบการได้รับอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่สำนักงานที่ดินจังหวัดท้อง ที่ หรือสำนักส่งเสริมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โทร. 02 – 2226824 , 02 – 2223271
+ควรตรวจสอบสาธารณูปโภคหรือบริการสาธารณะต่าง ๆ เช่น ถนน สโมสร สนามเด็กเล่น สวนหย่อม โรงเรียน อนุบาล ฯลฯ ว่าตรงกับคำโฆษณาหรือไม่
+ซื้อขายที่ดินต้องจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดินจึงชอบด้วยกฎหมาย
+การซื้อขายที่ดินพร้อมบ้าน ระวังผู้ขายหลบเลี่ยงค่าธรรมเนียม ภาษีอากรโดยโอนขายให้เฉพาะที่ดินไม่ขายบ้านและท่านจะได้รับความเดือดร้อนใน ภายหลัง
+ผู้จัดสรรมีหน้าที่ต้องทำนุบำรุงรักษาสาธารณูปโภคในที่ดินจัดสรร

ขอบคุณข้อมูลดีดีจาก

วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วิธีการเลือกซื้อบ้านจัดสรร


วิธีการเลือกซื้อบ้านจัดสรร
สิ่งที่ต้องคำนึง คือที่ตั้งโครงการมีความสัมพันธ์กับการขยายตัวของเมืองหรือไม่ มีถนน,ทางด่วน หรือระบบขนส่งมวลชน ไป ถึงหรือเปล่าเจ้าของโครงการมีความน่าเชื่อถือและเคยทำโครงการหรือไม่ ซื่อสัตย์ต่อผู้ซื้อแค่ไหนรูปแบบของตัวบ้าน และมาตรฐานของวัสดุที่ใช้สัมพันธ์กับราคาที่ขายหรือเปล่าระบบ สาธารณูปโภคต่างๆเช่น ระบบระบายน้ำ ประปา ไฟฟ้า สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สโมสร สวนสาธารณะ,ทะเลสาบมีหรือไม่สิ่งต่างๆ เหล่านี้สำคัญมาก ยิ่งถ้ามีบ้านตัวอย่างให้ดูยิ่งช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในการ ซื้อบ้านจัดสรร
* ประการแรกคือ ไม่ควรซื้อบ้านจัดสรรที่อยู่ใกล้ แหล่งชุมชนแออัด เพราะแหล่งชุมชนแออัดเป็นต้นเหตุให้ เกิดปัญหาเรื่องความไม่ปลอดภัย ซึ่งไม่ใช่เรื่องขโมยอย่าง เดียว อาจจะหมายถึงเรื่องอัคคีภัยด้วย
* ประการที่สองคือ ไม่ควรซื้อบ้านจัดสรรติดกับแหล่ง กักเก็บวัตถุระเบิด หรือวัตุไวไฟ จริงๆ แล้วมีกฏหมายกำ- หนดไว้ว่าต้องไม่อยู่ใกล้บริเวณนี้ แต่ก็มีการฝ่าฝืนอยู่หลาย โครงการ
* ประการสุดท้ายคือ ไม่ควรซื้อบ้านที่มีทางเข้าออก หลายทาง หรือทางผ่านสาธารณะ ซึ่งอาจสวนทางกับคำ โฆษณาที่บอกว่ามีทางเข้า-ออกหลายทางหรือติดถนนใหญ่ เนื่องจากการดูแลความปลอดภัยค่อนข้างยาก ถ้าเป็นทาง สาธารณะ ก็จะมีรถความเร็วสูงๆ ผ่าน ลูกหลานของเราอาจจะไม่ปลอดภัย

วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2553

การพิจารณาเลือกแบบบ้าน


การพิจารณาเลือกแบบบ้าน
บ้านที่ดีต้องมีพื้นที่ใช้สอยอย่างเต็มที่ที่สุด และที่สำคัญต้องเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศเมืองร้อนอย่างประเทศไทยเรา สิ่งที่ท่านควรคำนึงถึงในการเลือกแบบบ้านอย่างเหมาะสมกับที่ดิน และงบประมาณของท่านมากที่สุด มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1.จำนวน และ อายุ ของคนในครอบครัว จำนวนสมาชิกในครอบครัว
2.การใช้ชีวิตภายในบ้าน สมาชิกในครอบครัวมีพฤติกรรมหรือมีกิจกรรมใดบ้าง ก็เป็นส่วนหนึ่งในการเป็นตัวกำหนด การจัดวางพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน
3.สภาพของพื้นที่ สภาพของอากาศ แสงแดดส่องตรงไหนบ้าง โดยจะเป็นตัวกำหนดในการเลือกแบบบ้าน ว่าจะเป็นแบบบ้านในแนวลึก แนวกว้าง หรือ แนวสูง ทั้งหมดที่กล่าวสถาปนิกจะช่วยแนะนำท่านได้มาก

วันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ตึกระฟ้า



ตึกระฟ้า (อังกฤษ: Skyscraper) ในยุโรปจะหมายถึงตึกที่มีความสูง 152.4 เมตรขึ้นไป (แต่กับทวีปอื่นๆ จะใช้มาตรฐานที่แตกต่างกันไป) โดยตึกระฟ้าส่วนใหญ่จะเป็นสำนักงาน โรงแรม หรือที่อยู่อาศัย ในช่วงเวลาคริสต์ศตวรรษที่ 19 นั้น ยังไม่มีตึกที่สูงเกินกว่า 6 ชั้น เนื่องจาก ผู้คนไม่ต้องการเดินขึ้นบันไดสูง และไม่สามารถปั๊มน้ำให้สูงเกินกว่า 15 เมตรได้ ตึกระฟ้าเริ่มเป็นไปได้หลังจากความสำเร็จในการพัฒนาเหล็ก คอนกรีตเสริมเหล็ก และปั๊มน้ำ รวมถึงการสร้างลิฟต์ในปัจจุบันสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกคือ ตึกบูร์จคาลิฟา ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีความสูงทั้งสิ้น 828 เมตร (2,717 ฟุต) มีจำนวน 162 ชั้น โดยมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ 4 มกราคม พ.ศ. 2553