วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

สร้างรั้วบ้าน ตามหลักฮวงจุ้ย


ใครที่ต้องการสร้างรั้วบ้าน ตามหลักฮวงจุ้ย วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีเรื่องนี้มาฝาก…
1. ห้ามสร้างรั้วบ้านก่อนสร้างบ้าน
ข้อห้ามนี้คงเคยได้ ยินกันมาบ้าง ในตำราให้เหตุผลเอาไว้ว่าเหมือนสร้างคุก รอคนเข้าไปอยู่เพราะกำแพงล้อมทั้งสี่ด้านก็ไม่ต่างไปจากคุกนั่นเอง หลักการสร้างบ้านจะต้องสร้างจากด้านในขยายไปสู่ด้านนอกจึงจะถือว่าถูกต้อง รั้วจึงเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่จะสร้าง
2. ห้ามสร้างรั้วสูงหรือต่ำเกินไป
การสร้างกำแพงรั้วสูง จะปิดบังลมที่พัดเข้าบ้าน และผู้อยู่อาศัยจะรู้สึกอึดอัดเหมือนอยู่ในที่คุมขัง การสร้างรั้วสูงส่วนใหญ่จะเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่มากๆ แล้วตัวบ้านไม่ได้อยู่ชิดรั้วมากจนเกินไปความรู้สึกอึดอัดก็จะลดน้อยลง ถ้าสร้างรั้วต่ำก็ล่อแหลมต่อการถูกโจรขโมยขึ้นบ้าน เพราะฉะนั้นจึงควรกำหนด ความสูงของรั้วให้อยู่ในระดับที่พอดี
3. รั้วโปร่งดีกว่าทึบ
การสร้างรั้วโปร่งจะ ให้ความรู้สึกสบายไม่อึดอัดกับผู้อยู่อาศัยในบ้านการไหลเวียนของลมที่พัด เข้าสู่บ้านก็จะได้ประโยชน์เต็มที่ แต่ถ้าเป็นกรณี ของบริษัท โรงงาน โกดังเก็บของ อาจจำเป็นจะต้องสร้างรั้วทึบเพื่อป้องกันโจรขโมย เพราะฉะนั้นการสร้างรั้วจึงต้องดูที่ความจำเป็นและประโยชน์ใช้สอยด้วย
4. ห้ามเจาะช่องหน้าต่างที่กำแพงรั้ว
ถ้ารั้วเป็นกำแพงทึบ การเจาะ ช่องที่กำแพง ถือเป็นข้อห้าม เพราะจะทำให้ชี่บ้านนั้นจะเก็บทรัพย์เอาไว้ไม่อยู่ นอกจากนี้ บ้านยังขาดความมั่นคง โจรขโมยสามารถมองเห็นภายในบ้านได้ง่าย
5. รั้วบ้านห้ามทำเป็นลูกกรงซีกหรือเหล็กแหลม ลักษณะของรั้วลูกกรงที่ มีเหล็กแหลมอยู่ด้านบนคนที่อยู่ในบ้านก็ไม่ต่างไปจากสัตว์ที่ถูกขังอยู่ใน กรงหรือกรณีที่เอาเศษแก้วไปเสียบเอาไว้บนขอบรั้ว กำแพงเพื่อป้องกันขโมยปีกเข้าบ้านก็จะเข้าข่ายเดียวกันในทางฮวงจุ้ยถือว่า ไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง ถ้าจะใช้รั้วแบบนี้ ควรจะมีการแต่งลวดลายโค้งวงกลมเสริมเข้าไปยอดบนที่มีลักษณะลูกศรที่แหลมคมก็ ใช้วงกลมใส่แทนเข้าไปเพื่อลดความรู้สึกก้าวร้าว ของความแหลมคมลง
6. วัสดุในการสร้างรั้วเป็นไม้ดีที่สุด
การสร้างรั้วบ้านโดย ใช้วัสดุที่เป็นไม้จะให้ความรู้สึกที่ดีและเหมาะกับบ้านอยู่อาศัยมากที่สุด เพราะไม้เป็นวัสดุจากธรรมชาติโดยตรง คนในบ้าน จะรู้สึกใกล้ธรรมชาติมากกว่ารั้วที่เป็นปูนหรือเหล็ก แต่ในปัจจุบันรั้วบ้านส่วนใหญ่ จะวัสดุที่เป็นปูนผสมเหล็กเพราะแข็งแรงกว่า และประหยัดกว่าการใช้ไม้ที่มีราคาค่อนข้างแพง ถ้ารั้วจะเป็นปูนหรือเหล็กก็คงไม่ผิดอะไรขอให้แข็งแรงเป็นใช้ได้
7. การปลูกต้นไม้ทำเป็นรั้ว
ลักษณะรั้วแบบนี้มี ให้เห็นไม่บ่อยนัก เพราะคนไม่ค่อยนิยมทำกันเนื่องจากมองว่าแข็งแรงสู้รั้วปูนไม่ได้ นอกจากนี้ยังดูแลยากต้องคอยตัดแต่งต้นไม้อยู่เสมอ ส่วนใหญ่จะนิยมทำกันตามบ้านที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยดีอย่างหมู่บ้าน ใหญ่ ๆ เพราะไม่ต้องห่วงในเรื่องของโจรขโมยขึ้นบ้าน ในทางฮวงจุ้ยถือว่ารั้วแบบนี้เป็นรั้วธรรมชาติจริง ๆ ย่อมส่งผลดีต่อบ้านนั้นมากกว่าเสีย
8. รั้วที่ชำรุดหรือแตกร้าวเป็นลางร้าย
ในทางฮวงจุ้ยจะให้ ระวังสิ่งที่เสื่อมสภาพหรือชำรุด เพราะถือเป็นลางร้ายที่บ่งบอกว่าบ้านหลังนั้นจะประสบกับปัญหาเจ้าของบ้านจะ พบกับความล้มเหลวได้ รั้วบ้านที่แตกร้าวผุผังแทนความหมายของความมั่นคงที่ถูกทำลายลง เพราะสิ่งที่ป้องกันภัยจากนอกบ้านกำลังเสื่อมสภาพลง เพราะฉะนั้นจึงควรหมั่นดูแลรักษาสภาพของรั้วให้แข็งแรงและดูใหม่อยู่เสมอ
เพียงเท่านี้ ก็เลือกสร้างรั้วให้เหมาะกับฮวงจุ้ยได้แล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วิธีแต่งบ้านคลายร้อน


วิธีแต่ง บ้านคลายร้อน (เดลินิวส์)
บ้านไหนที่รู้สึกเริ่มร้อน วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีแต่งบ้านคลายร้อนมาฝาก…
การแต่งบ้านคลายร้อนมีองค์ประกอบอยู่ 3 อย่างแบบง่ายๆ คือ ลม น้ำ และต้นไม้ บ้านจะเย็นสบายได้ จะต้องพึ่งลมเป็นอันดับแรก เพราะลมจะช่วยระบายอากาศที่ร้อนอบอ้าวให้คลายลง นอกจากนี้ยังไล่อากาศเสีย กลิ่นอับภายในบ้าน ส่งผลให้คนในบ้านมีสุขภาพดีอีกด้วย
บ้านจะรับลมได้ก็ ต่อเมื่อแบบบ้านเอื้ออำนวยให้ลมพัด เข้าบ้านได้ เช่น ประตูเข้าบ้าน ห้องรับแขก ห้องอาหาร ซึ่งเป็นห้องแบบเปิดที่มีช่องประตูหน้าต่างให้ลมเข้าบ้านได้ อยู่ทางทิศใต้ หรือตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นทิศทางลมหลัก โดยเฉพาะหน้าร้อน ที่ลมจะมาทางทิศใต้ ก็จะทำให้บ้านเย็นสบาย โดยไม่ต้องพึ่งแอร์ หรือพัดลมเลย แต่ต้องเปิดประตูหน้าต่าง ช่องประตู หน้าต่างของบ้าน อยู่ในตำแหน่งทางลม จะช่องให้บ้านเย็น
น้ำ พูดถึงน้ำก็เย็นแล้ว เพราะฉะนั้น การเอาน้ำมาแต่งบ้าน จึงกลายเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำพุ น้ำตก หินหมุน ไหล้น หรือแม้แต่ตู้ปลาสักตู้ ล้วนนำความเย็นให้กับบ้านทั้งสิ้น ตำแหน่งที่สามารถวางน้ำได้ก็รอบบ้านเลย ตรงไหนก็ได้ แต่มีข้อแม้ตรงที่ว่าจะต้องอยู่ในตำแหน่งที่คนในบ้านมองเห็น เพราะถ้ามองไม่เห็น ก็ถือว่าไม่ช่วยอะไรเลย น้ำมีผลมากต่อจิตใจของคน เวลาเครียด โมโห หงุดหงิด ลองมานั่งมองน้ำได้ยินเสียงน้ำ สักพักอารมณ์จะดีขึ้น ขนาดน้ำ ยิ่งใหญ่ยิ่งมีผลมาก
ต้นไม้ เป็น อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บ้านเย็น การปลูกต้นไม้ในบ้านมาก จะช่วยลดความร้อนจากแสงแดดที่ส่องเข้าบ้าน โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ (ถ้ามีพื้นที่มากพอ) จะได้ประโยชน์มาก การดูทิศเพื่อปลูกต้นไม้ ก็จะช่วยแก้ความร้อนได้อย่างถูกจุด เช่น ต้นไม้ใหญ่ควรปลูกทางทิศทางแดด คือ ทิศตะวันออก และตะวันตก ไม่ควรปลูกต้นไม้ใหญ่ทางทิศใต้ หรือตะวันตกเฉียงใต้ เพราะจะบังลมเข้าบ้าน บ้านไหนที่อยากให้บ้านเย็นสบาย ก็ลองนำวิธีที่แนะนำไปตกแต่งบ้านกันได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

จัดบ้านต้อนรับ วาเลนไทน์กันดีกว่า


สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
เรื่องโดย คุณนัชพร ศิริรังษีภาพ
ประกอบทางอินเทอร์เน็ต
เมื่อเทศกาลแห่งรัก 14 กุมภาพันธ์ เวียนมาถึง ของขวัญแห่งความรักมากมายก็ทยอยออกมาเรียกน้ำย่อย ตั้งแต่ช่อดอกไม้สวยงามไปจนถึงช็อกโกแลตรูปทรงแปลกตา และสำหรับการสังสรรค์ของคู่รัก หรือการใช้เวลาอยู่ด้วยกัน มีที่ไหนเป็นส่วนตัวเท่ากับฉลองที่บ้านเล่า… เอ้า! เมื่อเป็นเช่นนี้สาวๆ หนุ่มๆ คนไหนที่จะพาแฟนไปบ้าน ลองนำเคล็ดลับดังต่อไปนี้ไปเปลี่ยนบ้านให้เป็นสวรรค์นะจ๊ะ
โดย คุณ วงศรณ สุทธิกุลพาณิช อินทีเรียร์ดีไซเนอร์อิสระ บอกเคล็ดลับง่ายๆ เพื่อความโรแมนติกในวันวาเลนไทน์สำหรับทุกคู่รัก และใครก็ได้ที่รักกัน ให้จัดบ้านดังนี้จ้า. . .

1. ไลติ้ง
เรื่องของแสงเป็นตัวการเปลี่ยนบรรยากาศให้โรแมนติกได้ง่ายที่สุด ถ้าบ้านใครติดตั้งไฟแบบวอร์มไวท์ เพียงแค่ปรับลดแสงลง แค่นี้ก็ซึ้งแล้ว . . . จากนั้นเพิ่มโคมไฟตั้งโต๊ะแทนที่ เพื่อให้แสงภายในบ้านนุ่มนวลขึ้น หรือจะจุดเทียนในบางจุดก็ได้ แต่ขอแนะนำว่าอย่าจุดมากจนเกินไป เพราะแสงเทียนจะวูบวาบเมื่อโดนลม แสงจากโคมไฟจึงเหมาะที่สุด และเป็นแสงที่นิ่งไม่วูบไหว
แต่ในกรณีที่บ้านใครติดตั้งไฟเดย์ไลต์ หรือใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซนซ์โดยเฉพาะ ถ้าเป็นแสงสีขาว แสงที่ออกมาจะทำให้ห้องดูแข็งกระด้าง ไม่นุ่มนวล จะทำลายอารมณ์โรแมนติกหมด ขอแนะนำให้ปิดไปเลย เปลี่ยนไปใช้โคมไฟแทน เพื่อให้ห้องนุ่มนวลขึ้น

ในกรณีที่ใครกำลังสร้างบ้าน ใหม่ หรือจะเปลี่ยนแปลงระบบไฟใหม่ ในห้องนั่งเล่น หรือห้องที่ต้องการบรรยากาศโรแมนติก ขอแนะนำให้เลือกใช้ไฟแบบวอร์มไวท์ เพราะสามารถปรับระดับแสงได้ตามความต้องการ หรือติดตั้งไฟสีส้มเพื่อให้แสงนุ่ม ให้ความรู้สึกอบอุ่นกว่า แถมยังช่วยขับผิวพรรณสาวหนุ่มให้ดูดีขึ้นอีกด้วย

2. ผิวสัมผัส
นอกจากแสงที่เปลี่ยนบรรยากาศให้โรแมนติกแล้ว ผิวสัมผัสที่ได้รับก็ส่งผลต่ออารมณ์เช่นกัน ในที่นี้หมายถึงงานผ้าในการตกแต่ง ตั้งแต่ผ้าบุโซฟา ผ้าม่าน หากสามารถเปลี่ยนเป็นเนื้อผ้าที่มีความอ่อนนุ่มได้ เช่น ลินิน ไหม หรือซาติน ก็จะช่วยให้สิ่งรอบๆ ตัวดีขึ้นไปหมด

สัมผัสที่นุ่มนวลย่อมมีผลต่ออารมณ์ที่นุ่มนวล ทั้งยังเปลี่ยนเป็นบรรยากาศที่สบายๆ ได้มากขึ้น นุ่มนวลอบอุ่นมากขึ้น

3. สีสัน
แม้สัญลักษณ์ของวาเลนไทน์จะเป็นกุหลาบสีแดง แต่การตกแต่งห้องด้วยสีแดงทั้งหมดนั้นอาจรุนแรงไป ไม่ว่าจะเป็นแดงหรือชมพูก็ตาม หากสีเยอะจนเกินไปจะดูแป๋น ซึ่งผู้หญิงอาจชอบ แต่ขอแนะนำว่าไม่เหมาะกับผู้ชายเท่าไหร่
ผู้ชายเหมาะที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมในโทนสีที่อบอุ่น เช่น น้ำตาลออกกาแฟ หรือสีเขียวมะกอก ดังนั้นการแต่งห้องด้วยสีจึง ต้องระวังให้ดี คือไม่ให้เป็นสีจัดรุนแรงทั้งหมด แต่ควรมีการเบรกด้วยสีอื่นบ้าง เช่น ถ้าห้องสีเข้มแล้วก็ควรใช้ของตกแต่งที่เป็นสีอ่อนบ้าง ในทางกลับกัน หากห้องสว่างสดใสก็แต่งเฟอร์นิเจอร์สีเข้มลงไป เช่น ห้องสีขาวหรือครีม ก็ควรใช้งานผ้าสีกาแฟ หรือแดงได้เล็กน้อย เป็นต้น
4. การจัดโต๊ะ
วาเลนไทน์ทั้งที มื้อนี้อิ่มกับคนรักต้องพิเศษกว่าธรรมดาหน่อย วงศรณแนะนำว่า ความตื่นเต้นบนโต๊ะอาหารสร้างง่ายๆ ด้วยชุดภาชนะนี่เอง เปลี่ยนให้สวยงามสดใสตามใจชอบ ภาชนะที่เหมาะควรเป็นชุดที่มีรายละเอียดเป็นลวดลายที่อ่อนหวาน ภาชนะเรียบๆ ไม่เหมาะในโอกาสนี้
สิ่งที่เติมเต็มบรรยากาศอีกอย่างก็คือ แผ่นรองจาน ซึ่งช่วยเพิ่มความหรูหราให้มื้ออาหารนั้น ทำให้มีความรู้สึกที่พิเศษขึ้น และพิถีพิถันมากขึ้น

ที่สำคัญพลาดไม่ได้ก็คือ ควรมีการจัดโต๊ะสักเล็กน้อย วิธีการจัดก็ง่ายๆ คือจัดลงไปที่กลางโต๊ะ หรือที่เรียกว่าเซ็นเตอร์พีซ โดยการใช้เชิงเทียนแสนหรู เหมาะสมกับบ้านและฐานะ หรือจัดดอกไม้ลงไป ควรระวังไม่ให้ดอกไม้ในแจกันเว่อสุดขีด หรือใหญ่เกินไป เพราะจะบังหน้า ควรจะต้องเตี้ยกำลังดี รวมทั้งเรื่องของสีดอกไม้ด้วย อย่าลืมเลือกให้กลมกลืนกับสีของบ้านและภาชนะ
นอกจากดอกไม้บนโต๊ะอาหารแล้ว การจัดดอกไม้ในบ้านสำหรับวันสำคัญนี้ก็เป็นสิ่งที่ห้ามมองข้าม เพราะดอกไม้เติมอารมณ์โรแมนติกได้ดี ถ้าเป็นห้องโปร่งสีขาวหรือสีสว่าง ควรเลือกดอกไม้แบบดอกเล็กๆ ใบเล็กๆ มีสีหวานอย่างพาสเทล เพื่อเพิ่มความหวาน และให้ภาพรวมที่นุ่มนวล แต่ถ้าชอบสีแดงของดอกกุหลาบก็จัดแต่งได้ แต่ต้องไม่มาก หรือผูกขาดแค่สีเดียวเพราะจะทำให้น่าเบื่อ และดูแรงไป ควรจัดสีแดงไว้จุดหนึ่ง แล้วจุดอื่นๆ ก็ใช้สีอื่นที่เบาลงมา เพื่อให้บ้านธรรมดาๆ มีชีวิตชีวาและมีสีสัน
เคล็ดลับง่ายๆ จากนักออกแบบตกแต่งภายในคนนี้ คงช่วยสร้างสีสันของบ้านให้อบอวลไปด้วยบรรยากาศของความรักได้อย่างไม่ยาก เย็นเกินไปนัก ใช่ไหมล่ะ . . .

วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เลือกคอนโดให้ถูกหลัก


หนุ่มสาวยุคใหม่ชอบมีอยู่คอนโดมีเนียมใจกลางเมืองเพราะเดินทางได้สะดวกสบาย และตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัวของชีวิตได้หลายอย่าง
แต่ก่อนจะซื้อคอนโดควรหาคอนโดที่มีตึกสูงใหญ่อยู่ด้านหลัง จะได้มีคนอุปถัมภ์ หรือตึกที่อยู่ขนาบข้าง จะได้มีผู้ช่วยเหลือ ด้านหน้าคอนโดจะต้องมีเนื้อที่กว้างเพื่อให้พลังชิหรือลมพัดเข้ามาสร้างพลัง ให้ตึกภายใน หรือถ้าคอนโดเป็นรูปตัว L ให้เลือกห้องที่อยู่ตรงฐานตัว L จะทำให้ชีวิตมั่นคง

สร้างบ้าน พลังงานหารสอง



สร้างบ้าน พลังงานหารสอง
ไม่ว่าใครก็อยากอยู่บ้านที่เย็นสบาย โดยเฉพาะหน้าร้อนแบบนี้ ซึ่งถ้าอยู่แล้วเย็นแต่ค่าใช้จ่ายในบ้านพุ่งกระฉูดคงไม่ดีแน่ ดังนั้น วันนี้เรามีวิธีอยู่บ้านแบบคลายร้อนพร้อมประหยัดสตางค์ในกระเป๋ามาฝากกัน

งบเยอะปรับผัง บ้าน
ถ้าคุณมีโครงการที่จะปรับเปลี่ยนมุมต่างๆ หรือซ่อมแซมตัวบ้านอยู่แล้ว เวลานี้เหมาะอย่างยิ่งที่คุณอาจจะวางผังบ้านใหม่ไปในตัว โดยเปิดช่องใหม่ เช่น หน้าต่าง ประตู ให้เยอะขึ้น เพื่อให้ลมพัด เข้าออก ลดการใช้แอร์ เจาะช่องพัดลมดูดอากาศ อาจจะเติมกันสาดในมุมที่แดดส่องถึงตลอดเวลา และปลูกต้นไม้ใหญ่แบบโตเร็ว ให้ร่มเงา ทำให้บ้านเย็นขึ้นได้มากมาย
อีกทั้งสวนเล็กๆ ตามมุมบ้านก็ช่วยให้บ้านเย็นได้ เนื่องจากสวนจะดูดความร้อนและคายความเย็นออกมาให้คุณยามบ่าย คุณจะได้รักการอยู่บ้านมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นถ้าต้องเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ในบ้านด้วย คุณควรเลือกแบบไม้โปร่ง ไม่อมฝุ่น เพราะเหมาะกับเมืองร้อนอย่างบ้านเรา

งบน้อยปรับ ฟอร์นิเจอร์
นอกจากจะเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ไปเลย คุณยังสามารถเลื่อนเฟอร์นิเจอร์ใหม่ เพื่อไม่ให้ขวางทางลมพัดเข้าออก รวมทั้งยังเป็นการเปิดช่องให้แสงเข้า คุณจะได้ไม่ต้องเปลืองไฟฟ้าอีกทอดหนึ่งด้วย และควรทำความสะอาดหลอดไฟ กระจก และหน้าต่าง ที่เป็นประตูควรเปิดให้แสงและลมพัดเข้าได้สะดวกขึ้น
หากหน้าบ้านเป็น พื้นอิฐบล๊อก หาต้นหญ้ามาปลูกแทรกในช่องว่างระหว่างก้อนอิฐ เพื่อลดการสะท้อนแสงเข้าตัวบ้าน พร้อมปรับทิศทางห้องต่างๆ ให้เหมาะสม เช่น ห้องนอนควรหันไปทางทิศตะวันออกเพื่อหลบแดดช่วงบ่าย ห้องนั่งเล่นควรอยู่ทางทิศเหนือ เพราะแดดจะส่องเข้าน้อยที่สุด

ปรับไลฟ์สไตล์ไม่เสียเงิน
คุณอย่ายึดติดกับการเปิด แอร์เพื่อแก้ร้อนนักเลย หากร้อนอาจจะมองหาสักมุมที่มีลมเย็นๆ ในบ้าน ปูเสื่อวางเบาะนั่งเล่นก็ได้ ซึ่งประหยัดเงินโดยไม่ต้องเปิดแอร์แต่อย่างใด หากิจกรรมที่ไม่เปลืองพลังงานอย่างการอ่านหนังสือ เล่นดนตรี
รวมทั้งควรปรับ ไลฟ์สไตล์แสนเปลืองต่างๆ อย่างเช่น การรีดผ้าในห้องแอร์ เปิดทีวีเป็นเพื่อน เสียบปลั๊กทิ้งไว้ พร้อมเลี้ยงปลาในห้องแอร์ เป็นต้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก